เชื่อว่าผู้ประกอบการที่กำลังอยากเริ่มต้นหรือขยับขยายธุรกิจ ต้องเจอกับคำถามที่ว่าควรสร้างโกดังเองหรือเช่าดี เลือกแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ วันนี้เราจึงมีข้อดีของการเช่าคลังสินค้าที่ผู้ประกอบการอาจคาดไม่ถึงมาฝากเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจ
เช่าคลังสินค้าดีกว่ายังไง
หลัก ๆ เช่าคลังสินค้ามีข้อดี ดังต่อไปนี้
1. มีความยืดหยุ่น
การเลือกเช่าคลังสินค้าถือเป็นตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่นสำหรับผู้ประกอบการที่มีแผนต้องการขยับขยายหรือปรับเปลี่ยน ดังนี้
- โยกย้ายสะดวก หากผู้ประกอบการมองเห็นว่าจำเป็นต้องมีการโยกย้ายตามฐานลูกค้าหรือปรับปรุงโครงสร้างใหม่จะสามารถดำเนินการได้เร็วและสะดวก
- มีทางเลือกหลากหลายกว่า คลังสินค้าให้เช่าส่วนใหญ่เป็นแบบสำเร็จรูปที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความต้องการในการจัดเก็บสินค้าโดยพื้นฐานอยู่แล้ว และหากผู้ประกอบการต้องการใช้ก็สามารถปรับแต่งหรือติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้เลยทันที
2. คุ้มค่ากว่า
หากเทียบการเช่าคลังกับสร้างโกดังสินค้าในระยะยาวจะเห็นถึงความได้เปรียบ ดังนี้
- สามารถลดหย่อนภาษีได้ การเช่าโรงงานสามารถนำไปใช้เพื่อลดหย่อนภาษีทั้งหมดได้ต่างจากการเป็นเจ้าของ คือ ขอลดได้แค่บางส่วน เช่น การซื้อที่ดินหรือการถมดิน ค่าเสื่อมราคาอาคาร
3. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ส่วนใหญ่เวลาทำข้อตกลงในสัญญาผู้เช่าสามารถต่อรองกับทางผู้ให้เช่าว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของค่าบำรุงรักษาได้
4. สะดวกกว่า ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการจัดเตรียมเอกสาร
หากผู้ประกอบการต้องการเช่าคลังสินค้า เอกสารที่จำเป็นต้องเตรียม คือ สัญญาในการเช่า แต่กรณีที่เป็นเจ้าของคลังสินค้าจำเป็นต้องมีทั้งใบอนุญาตและการจดทะเบียนต่าง ๆ มากมาย
5. มีกระแสเงินหมุนเวียนมากขึ้น
หากเทียบค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ไปกับการสร้างคลังสินค้ากับการเช่าจะเห็นได้ชัดเจนว่าการเช่าสินค้ามีงบประมาณน้อยกว่า นั่นหมายความว่าเราจะมีเงินนำไปใช้ในการหมุนเวียนด้านอื่น ๆ มากกว่าตามมานั่นเอง
ควรทำสัญญาให้เช่าระยะสั้นหรือระยะยาว
สำหรับระยะเวลาการทำสัญญาเช่าโกดังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยแต่ละประเภทเหมาะกับธุรกิจต่างกัน ดังนี้
- ผู้ประกอบการที่มีแพลนขยับขยาย ควรเลือกสัญญาระยะสั้น
- ผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนหรือปรับเปลี่ยนโกดังให้เช่าตอบโจทย์ธุรกิจ ควรเลือกสัญญาระยะยาว
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเช่าโกดังสินค้า
อย่างไรก็ตามถึงแม้การเช่าคลังสินค้ามีข้อดีแต่ก็มีสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเช่า ดังนี้
- ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคิดให้อัตราร้อยละ 5 ของค่าเช่า
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม vat ร้อยละ 7%
- ค่ามัดจำ ไม่ควรเกิน 2 – 4 เดือนของค่าเช่า
- ค่าอากรแสตมป์ อัตราร้อยละ 0.1 ของค่าเช่าตลอดสัญญา
- ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัตราร้อยละ 0.3 – 0.7
อย่างไรก็ตามการเช่าคลังสินค้าและการสร้างคลังสินค้ามีข้อดี – ข้อเสียต่างกัน ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้ดีก่อนเลือกให้ตอบโจทย์ความต้องการ แต่สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มความยืดหยุ่นและเริ่มต้นธุรกิจได้เร็วกว่าการเช่าคลัง คือ ตัวเลือกที่ใช่